คุณครูขา คารถแห่แววับ คอลัมน์... คมเคียวคมปากกา โดย... บรรณวัชร
++
ในยามที่รถแห่ต้องจอดนิ่งสนิท ติดวิกฤตโควิด บรรดานักร้องนักดนตรีทั้งหลาย ก็ปรับตัวอยู่บ้านและเล่นดนตรีไลฟ์สดไปพลางๆ
ช่วงปีที่ผ่านมา ถ้าพูดถึงเพลงประจำรถแห่ ก็ต้องยกให้เพลง "คารถแห่..แววับ“ ผลงานของนักร้องหน้าใหม่ ”หงสา ประภาพร" นับจากวันแรกที่เผยแพร่ทางช่องยูทูบ ต้นปี 2562 จนถึงเดือน พ.ค.2563 มียอดวิวสูงถึง 51 ล้านวิว
เพลงคารถแห่ ประสบความสำเร็จเพราะคนแต่งเพลง "สุริยันต์ ปากศรี" มีความช่ำชองในการเขียนเพลงลูกทุ่งอีสานแนวโจ๊ะๆมานานนับสิบปี และไม่ต้องพูดถึงคนทำดนตรี "สวัสดิ์ สารคาม" ยี่ห้อนี้การันตีความสนุก
สุริยันต์เขียนเพลงสนุก สอดแทรกสาระความจริงของสังคมชนบทยุคการศึกษาภาคบังคับ และเด็กส่วนหนึ่งจำใจไปเรียนให้ครบตามกฎหมายกำหนด
รัฐธรรมนูญฉบับ 2560 กำหนดให้รัฐจัดการศึกษาฟรี เป็นการศึกษาภาคบังคับหมายถึงตั้งแต่ก่อนวัยเรียน(ชั้นอนุบาล) จนถึง ม.3
"เป็นสาวนักเรียน นักเรียน นักเรียน เรียนมอ อีแม่อีพ่อดาวน์มอเตอร์ไซค์ให้ใช้ ขับไปโรงเรียนฝึกอ่านฝึกเขียนเพียรตั้งใจ บ่เคยเหลวไหลเถลไถลออกเส้นทาง.."
ท่อนแรกของเพลงนี้ สุริยันต์สะท้อนภาพ "อีแม่อีพ่อดาวน์มอเตอร์ไซค์ให้ใช้" หมายถึงพ่อแม่ต้องเอาใจลูก ซื้อมอเตอร์ไซค์ และซื้อสมาร์ทโฟนให้ลูก เพราะกลัวจะไม่ไปเรียนหนังสือ
วันหนึ่ง รถแห่ดนตรีสดผ่านหน้าโรงเรียน "เสียงดังตึ้ม ตึ้ม ตึ้ม ตึ้ม ตึ้ม ตึ้ม กระหึ้มตำใจเฮา.." สาวนักเรียนจึงบึ่งมอเตอร์ไซค์ไปตามเสียงเพลงเสียงดนตรีรถแห่
แน่นอน เมื่อมาถึงรถแห่ ไม่เต้นไม่เด้งคงไม่ได้ นักเรียนสาวจึงมีสภาพหมดแรงเต้น "จั่งแม่นม่วนคักแน่ สาวนักเรียนเมื่อยแอ้แหล้ อย่าไปบอกอีพ่ออีแม่ และคุณครูของหนูเด้อค่ะ เด้อค่ะ เด้อค่ะ เด้อค่ะ ว่าเจอหนูอยู่หน้ารถแห่"
ธรรมดาของสาวนักเรียนหนีโรงเรียนมาเต้นหน้ารถแห่ ก็ต้องวอนขอผู้ใหญ่ที่พบเห็นว่า อย่าไปฟ้องพ่อแม่ ฟ้องครูประจำชั้น
"ผู้สาวนักเรียน นักเรียน นักเรียนเรียนมอ มื้อนี้ขอขาดขอโดดโรงเรียนมาแห่ บ่ไปมื้อเดียวก็คงบ่ปึกดอกละแม่ สิแก้เอาดอกคันครูให้ศูนย์ให้รอ"
คำว่า “ไปมื้อเดียวก็คงบ่ปึกดอกละแม่” หมายถึงไปเต้นหน้ารถแห่วันเดียว คงไม่โง่หรอกแม่ และสาวนักเรียนยังบอกว่า ถ้าครูให้ 0 ให้ติิด ร. ก็จะแก้เอา
ในการศึกษาภาคบังคับ ครูให้แก้ 0 แก้ ร.อยู่แล้ว เพราะอยากให้เด็กจบไปตามกฎหมายบังคับ แต่ความจริง มีเด็กนักเรียนทั้งชายหญิง ไม่มาเรียนหนังสือเลยก็มีเยอะ ครูจะรู้ดีว่า นี่คือ “เด็กผี” ที่ทำรายได้ให้โรงเรียน เพราะกระทรวงศึกษาธิการ มีหน้าที่จ่ายรายหัวให้เด็กอยู่แล้ว
สมัยรถแห่เริ่มได้รับความนิยม นุกูลกิจ ทวีชาติ ได้เขียนบทความเรื่อง "วัฒนธรรมใหม่...พิสดารและอุบาทว์" ซึ่งผู้เขียนหยิบเอาประเด็นการ “เต้นตามรถแห่” ของกลุ่มเยาวชนในภาคอีสาน มาวิเคราะห์ว่า
ประการแรก มีกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนชายหญิง จับกลุ่มกันดื่มกินเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างโจ๋งครี่ม โดยไม่สนใจสายตาผู้หลักผู้ใหญ่หรือผู้ปกครองแต่อย่างใด
ประการที่สอง ท่าเต้นสุดพิสดารและอุบาทว์ ท่ากลิ้งไปกลิ้งมาบนถนน ม้วนหน้าม้วนหลัง ตีลังกาไปมา สะบัดแขน ถ่างขา บางคนนอนคว่ำกับพื้นแล้วก็เด้าใส่พื้นดิน นอนหงายแล้วเด้าเด้งขึ้นฟ้า บางคนถึงขนาดจับคู่กันหญิงชายเต้นเสมือนการผสมพันธุ์ของสัตว์
คงโทษที่เด็กหรือผู้ปกครองอย่างเดียวไม่ได้ เพราะโครงสร้างสังคมไทย มีความเหลื่อมล้ำมานานกว่าศตวรรษ ยิ่งพัฒนา ยิ่งทำให้คนต้องทิ้งถิ่นฐานเข้าเมืองหลวง
ปล่อยเด็กไว้กับปู่ย่าตายาย ปล่อยสาวนักเรียนไว้กับรถแห่ และไว้กับค่านิยมผิดๆ
"ภาคบังคับ" - Google News
May 13, 2020 at 07:33AM
https://ift.tt/2LnrDRF
คุณครูขา คารถแห่แววับ - คมชัดลึก
"ภาคบังคับ" - Google News
https://ift.tt/2YaK1os
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://koi.prelol.com/
Bagikan Berita Ini
0 Response to "คุณครูขา คารถแห่แววับ - คมชัดลึก"
Post a Comment