บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า หรือ Power Sector เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของกลุ่มโรงไฟฟ้าใน 1Q63 จะอยู่ที่ 9.3 พันล้านบาท (-1.3% YoY, +74.1% QoQ) กำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ จะมาจาก i) ปัจจัยฤดูกาลของ IPP และอุปสงค์การใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ii) ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของโรงไฟฟ้าหงสา และ iii) ค่าใช้จ่าย SG&A ลดลง อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักจะทรงตัว YoY เนื่องจากต้นทุนค่าก๊าซที่ลดลง (-5.2% YoY) ไปหักล้างกับการปิดซ่อมบำรุงและกระแสน้ำที่เข้าเขื่อนน้อยลงจากปัญหาภัยแล้ง เราคาดว่า Ratch Group (RATCH) จะเป็นเพียงบริษัทเดียวในกลุ่มโรงไฟฟ้าที่เราดูแลอยู่ที่ทั้งกำไรจากธุรกิจหลักและกำไรสุทธิดีขึ้นใน 1Q63
ทั้งนี้คาดว่าผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ก้อนใหญ่เนื่องจากมีภาระหนี้ระยะยาวในสกุลดอลลาร์ เราคาดว่า Electricity Generating (EGCO) และ Gulf Energy Development (GULF) จะมีผลขาดทุนสุทธิเพราะผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ขณะที่คาดว่าจะมีแค่BCPG (BCPG) และ CK Power (CKP) ที่จะมีสถานะสินทรัพย์สุทธิทำให้มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ใน 1Q63
เราชอบผู้ประกอบการ IPP อย่าง RATCH และ EGCO มากกว่าผู้ประกอบการ SPPs เนื่องจาก i) ค่าความพร้อมจ่าย (AP)
ใน 2Q63 มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น QoQ เพราะ weighting factor ของ IPP สูงขึ้น ii) ไม่ถูกกระทบจากภัยแล้ง และ COVID-19 (IPPs ใช้AP ซึ่งอิงจาก availability factor ไม่ใช่ dispatch factor) ขณะที่ผู้ประกอบการ SPP อย่างเช่น B Grimm Power (BGRIM) Global Power Synergies (GPSC) และ GULF มีสัดส่วนรายได้จากผู้ใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมสูง(BGRIM อยู่ที่ 24-25% GPSC อยู่ที่ 50-60% และ GULF อยู่ที่ 13-15%) ขณะเดียวกัน การปิดอุตสาหกรรมยานยนต์ และวิกฤติภัยแล้งก็จะทำให้อุปสงค์การใช้ไฟฟ้าของผู้ใช้ในภาคอุตสาหกรรมลดลงและ กฟภ. ก็ยังปรับลดค่าไฟฟ้าลง 3% (ผูกกับอัตราค่าไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรม) ใน 2Q63 เราได้รวมผลกระทบจาก COVID-19 ต่ออุปสงค์การใช้ไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟในภาคอุตสาหกรรมไปเรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าหลัง COVID-19 คลี่คลายลง หลายๆ อุตสาหกรรมจะค่อยๆปรับเพิ่มการผลิตภายใต้สภาวะ “new normal”
ยังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ Neutral เราชอบกลุ่ม IPPs (RATCH, EGCO) มากกว่า SPPs โดยเราชอบ RATCH เนื่องจาก i) โมเมนตั้มของกำไรใน 1H63 (พลิกฟื้นมาตั้งแต่ 4Q62) และ ii) อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2563 น่าสนใจที่ 4.0% นอกจากนี้ยังมองว่า EGCO เป็นหุ้น defensive ระยะยาว ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตจากการทำดีล M&A (มีเงินสดในมือถึง 2.05 หมื่นล้านบาท พร้อมสำหรับใช้ทำดีล M&A ได้) และยังมี track record ในการขยายกำลังการผลิตในต่างประเทศอีก
ปัจจัยเสี่ยงจากความล่าช้าในการจัดสรรกำลังการผลิตใหม่มีการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของทางการไทย โรงไฟฟ้าหยุดผลิตไฟฟ้า ความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการใหม่
ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
"หลัก" - Google News
May 04, 2020 at 06:00AM
https://ift.tt/2Yv32SE
คอลัมน์โลกธุรกิจ - 'กำไรจากธุรกิจหลัก' - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
"หลัก" - Google News
https://ift.tt/3cQVaPs
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
Bagikan Berita Ini
0 Response to "คอลัมน์โลกธุรกิจ - 'กำไรจากธุรกิจหลัก' - หนังสือพิมพ์แนวหน้า"
Post a Comment