กิจกรรม #สุราษฎร์จะฟาดเผด็จการ สะพานนริศ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 1 ส.ค. เรียกร้อง 3 ข้อ แม้มีคนขอให้ยกเลิก แต่ยังจัดกิจกรรมกลางสายฝน เจ้าหน้าที่ประกบกว่า 20 คน
เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2563 เวลาประมาณ 16.00 - 17.30 น. ณ.สะพานนริศ ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี กลุ่มนักเรียนและบุคคลทั่วไป ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวนกว่า 100 คน ได้เข้าร่วมทำกิจกรรม แฟล็ตม๊อบ #สุราษฎร์จะฟาดเผด็จการ โดยกิจกรรมเกิดจากการนัดหมายกันภายใน เพจ Facebook ชื่อ “SuratDemocrat” โดยได้มีการประกาศนัดหมายตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. 2563 ทั้งในงานได้มีการจัดหน่วยคัดกรอง จากผู้มีจิตอาสา มาช่วยทำการคัดกรองผู้เข้าร่วมภายในกิจกรรม
ทั้งนี้ในเวที ได้มีการเสนอข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลโดยแบ่งออกเป็น 3 ข้อ คือ 1. ยุบสภาและคืนอำนาจให้กับประชาชน จัดการเลือกตั้งใหม่ 2. หยุดคุกคามประชาชนและลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน 3. ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยมีตัวแทนของประชาชน นอกจากข้อเสนอดังกล่าวแล้ว ได้มีการออกมาปราศรัยในหลายประเด็น
เรื่องการเมืองกับคนรุ่นใหม่ โดยผู้ปราศรัยได้กล่าวว่า “จากเดิมผู้ใหญ่บอกกับพวกเขาว่า การเมืองเป็นเรื่องไกลตัวทั้งยังปิดกั้น และย้ำว่าควรที่จะตั้งใจเรียนอย่างเดียวโดยไม่ต้องสนใจการเมือง แต่เมื่อพวกเราได้เติบโตขึ้นมาแล้ว จึงพบว่าการเมืองเป็นเรื่องใกล้ตัวอย่างมากและเป็นเรื่องของทุกคน” ทั้งนี้ผู้ปราศรัย ได้มีการกล่าวถึง “#ถ้าการเมืองดี” ใน Twitter ซึ่งทางผู้ปราศรัยได้ให้ความหมายถึงการเมืองที่ดี ในหลายมิติ เช่น การเมืองที่ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ สามารถพูด คิด และแสดงออกทางการเมืองได้ โดยไม่กลัวการข่มขู่ คุกคาม ทำร้ายร่างกาย อุ้มหาย หรือถูกจับไปปรับทัศนคติ หรือ จะด้านเศรษฐกิจ ที่จะต้องมีความมั่นคง เข้มแข็ง อีกทั้งกล่าวว่า “ถ้าการเมืองดี เราทุกคนก็จะมีกรรมการที่ดีและไม่พ่ายแพ้ แก่อำนาจเงิน”
เรื่องสิทธิของ Sex worker หรือ พนักงานบริการ โดยผู้ปราศรัย ได้กล่าวว่า “อาชีพพนักงานบริการ หรือ Sex worker นั้น ทำไมสังคมไทยจึงมองว่าเป็นอาชีพที่ไม่มีเกียรติ หรือไม่มีคุณค่า ทั้งที่อาชีพดังกล่าวเรามีกันตั้งแต่ สมัยโบราณมาช้านานแล้ว ทั้งอาชีพพนักงานบริการก็คืออาชีพ อาชีพหนึ่งที่ต้องใช้ความสามารถ ศิลปะ และทักษะเฉพาะด้าน ที่ไม่ต่างจาก หมอ วิศวกร หรืออาชีพอื่น ๆ จึงนำมาสู่ข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล ให้รัฐบาลทำให้อาชีพพนักงานบริการ หรือ Sex worker เป็นอาชีพที่ถูกกฎหมาย และทำให้อาชีพนี้ได้รับสิทธิ หรือสวัสดิการขั้นพื้นฐานเท่าเทียมกับอาชีพอื่น”
เรื่องสิทธิสตรีและความเท่าเทียมทางเพศ โดยผู้ปราศรัย ได้กล่าวว่า “ในเรื่องสิทธิเท่าเทียมทางเพศ จากที่ค่านิยมของสังคม กำหนดให้ว่าผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัว หรือห้ามยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเพศนั้น เป็นสิ่งที่พึ่งถูกสร้างขึ้น มิได้มีอย่างช้านาน การพูดเรื่องเพศกันอย่างตรงไปตรงมาได้ภายในสถาบันการศึกษา น่าจะส่งผลดีกว่าการปิดกั้นไม่ให้พูดสิ่งใดเลย เพราะ จะทำให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและถูกต้องโดยไม่ให้เกิดปัญหาอื่นตามมา ซึ่งส่งผลต่อการจัดการศึกษาเรื่องเพศศึกษาในโรงเรียน ที่ควรให้ความสำคัญกับเพศศึกษาในโรงเรียนมากกว่านี้ และควรจะสอนเรื่องความยินยอมให้แก่นักเรียน เพราะในสังคมเองก็ยังมีคดีข่มขืนเด็กอยู่ไม่มากก็น้อย รวมไปถึงวิธีการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ให้ถูกต้อง เช่น การใส่ถุงยางอนามัยที่ถูกต้อง การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันปัญหาการท้องไม่พร้อม ปัญหาสุขภาวะทางเพศรวมไปถึงปัญหาสุขภาพจิตและปัญหาอื่น ๆ ด้วย
ทั้งเรื่องผ้าอนามัย ซึ่งราคาต่อชิ้นสูงจนเป็นที่น่ากังวล เพราะเมื่อเราทำการคำนวณค่าใช้จ่ายที่ผู้หญิงคนหนึ่งต้องจ่ายผ้าอนามัยทั้งชีวิต นั้นเป็นจำนวนเงินสูงถึง 60,000 บาท ซึ่งนี้เป็นเรื่องสุขภาวะที่จำเป็นกับผู้หญิงทุกคน ดังนั้นจึงไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องจ่ายเงินจำนวนมากขนาดนี้
นอกจากนี้ ในเรื่องของ Sex-toy นั้นควรเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ โดยผู้ที่ใช้ Sex-toy นั้นไม่ใช่คนไม่ดี หรือทำผิดศีลธรรมอันดีงาม แต่จะส่งผลดีทั้งในเรื่องการท้องไม่พร้อมหรือการคุมกำเนิดด้วย ซึ่งรัฐบาลควรอนุมัติให้ Sex-toy เป็นสินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย และออกกฎหมายควบคุมซื้อขาย Sex-toy ที่เหมาะสม มีการคัดกรองคุณภาพสินค้าที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ใช้ เพราะถ้าเราได้รับอันตรายจากสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ ใครจะรับผิดชอบกัน”
เรื่องสิทธิความหลากหลายทางเพศ และการสมรสเท่าเทียม โดยผู้ปราศรัย ได้กล่าวว่า “กลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศในสังคมไทย มีความไม่เท่าเทียมกับเพศอื่น ๆ ในหลายด้าน ซึ่งความเท่าเทียมทางเพศในความหมาย คือ การที่ไม่ว่าคุณเป็นใคร มีรสนิยมทางเพศใด ย่อมต้องมีความศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน เพราะ ทุกคนเป็นมนุษย์และมนุษย์มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน แต่ในสังคมไทย ยังมีการเหยียดกลุ่มเพศหลากหลายอยู่ ทั้งจากพฤติกรรมต่าง ๆ การมอง การนินทา ที่เกิดขึ้นเวลาที่กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศเดินทางไปในที่ต่าง ๆ ซึ่งทุกคนควรจะเคารพในความหลากหลายทางเพศ
ทั้งในเรื่องของการสมรสเท่าเทียม เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องเกิดขึ้นในไทยระหว่างเพศเดียวกันที่สมรสกัน หากแต่กฎหมายตาม พ.ร.บ.คู่ชีวิต ให้นิยามคำว่า “คู่ชีวิต” ต่างจาก “คู่สมรส” ออกไป โดยสาระสำคัญในเรื่องของการดูแลสุขภาพ ที่ “คู่ชีวิต” ตาม พ.ร.บ.คู่ชีวิต นั้นไม่สามารถที่จะลงชื่อรับรองหรือยินยอมในการผ่าตัด คู่ชีวิตของตนได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น”
สภาพการจัดกิจกรรม เป็นไปด้วยความทุลักทุเล เนื่องจากมีฝนตกลงมาตลอดทั้งงาน โดยในเวลาประมาณ เวลา 16.00 น ตามเวลาที่นัดหมาย ได้มีการรวมตัวกันของกลุ่มนักเรียนและบุคคลทั่วไป ที่ลานบริเวณสะพานนริศ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี (ใกล้สถานที่จัดกิจกรรม) แต่เนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องทำให้กลุ่มผู้เข้าร่วมกิจกรรมเข้าไปหลบฝนที่ศาลาริมน้ำ บริเวณใกล้เคียง และได้มีการเขียนป้ายผ้า ติดโบว์ขาวเพื่อเป็นสัญลักษณ์ และแจกสติกเกอร์ในบริเวณศาลดังกล่าว
โดยเวลาประมาณ 16.30 น. ได้มีบุคคลภายนอก เข้ามาพูดคุยกับกลุ่มผู้ทำกิจกรรมที่กำลังหลบฝนที่ศาลาริมน้ำ ว่าให้ออกจากหยุดการทำกิจกรรมเสีย เพราะฝนตก และคนที่มาก็มีจำนวนน้อย แต่กลุ่มผู้เข้าร่วมกิจกรรมก็ยังยืนยันที่จะจัดกิจกรรมต่อไป ในเวลาประมาณ 16.40 น. กลุ่มผู้เข้าร่วมกิจกรรมจึงตกลงร่วมกัน และยืนยันที่จะออกไปทำกิจกรรมกลางสายฝน ซึ่งสามารถดำเนินกิจกรรมต่อไปได้จนถึงเวลา ประมาณ 17.30 น. ก็ได้ประกาศยุติกิจกรรมลง
ตลอดทั้งงาน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายความมั่นคง ทั้งในและนอกเครื่องแบบ กว่า 20 คน (ในเครื่องแบบ ประมาณ 10 คน และนอกเครื่องแบบประมาณ 10 คน) เข้าติดตามกิจกรรมอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ยังมีพฤติกรรมในการถ่ายรูปลักษณะเฉพาะบุคคล โดยจ่อถ่ายที่ใบหน้าของผู้เข้าร่วมรายคนพร้อมกับป้ายที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมนำมาแสดงอีกด้วย
"กิจกรรม" - Google News
August 02, 2020 at 11:46AM
https://ift.tt/2DdFNEt
กิจกรรม #สุราษฎร์จะฟาดเผด็จการ เรียกร้อง 3 ข้อ - ประชาไท
"กิจกรรม" - Google News
https://ift.tt/3eNX6dg
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://koi.prelol.com/
Bagikan Berita Ini
0 Response to "กิจกรรม #สุราษฎร์จะฟาดเผด็จการ เรียกร้อง 3 ข้อ - ประชาไท"
Post a Comment