ศบค.ดีใจ ติดเชื้อเหลือหลักเดียวติดสองวัน ย้ำ ปชช.รักษาระยะห่าง การ์ดอย่าตก - มติชน

koi.prelol.com

ศบค.แถลง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7 ราย ต่ำกว่า 10 เป็นวันที่ 2 แล้ว เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย มีประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อยืนยันทั้งคู่ รับดีใจยอดผู้ติดเชื้อคงที่ ขอเป็นกำลังใจให้ ปชช.รักษาระยะห่าง รักษาตัวให้ดี การ์ดอย่าตก พบ 13 จังหวัดที่ไม่มีผู้ป่วยใหม่นาน 28 วัน ด้านกรมควบคุมโรควิเคราะห์ตัวเลขผู้ป่วย พบผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 328 คน คิดเป็น 11% ของผู้ป่วยทั้งหมด เสียชีวิตแล้ว 21 คน

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 28 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (ศบค.) แถลงถึงความคืบหน้าสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่าพบผู้ติดเชื้อใหม่ต่ำกว่าสิบเป็นวันที่ 2 โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7 ราย ผู้ป่วยสะสม 2,938 ราย หายป่วยเพิ่ม 43 ราย รวมหายป่วยสะสม 2,652 ราย มีผู้ติดเชื้อกระจายตัวใน 68 จังหวัด ยังพบผู้ป่วยช่วงอายุ 20-29 ปีสูงที่สุด รองลงมา 30-39 ปี จังหวัดที่มีผู้ป่วยสะสมสูงสุดยังเป็นกรุงเทพฯ และนนทบุรี 1,650 ราย ภาคเหนือ 94 ราย ภาคกลาง 373 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 111 ราย และภาคใต้ 671 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รวมเสียชีวิต 54 ราย โดยผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมรายที่ 53 เป็นชายไทย อายุ 52 ปี ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจากการไปประชุมสัมมนา เริ่มป่วยวันที่ 19 มีนาคม ด้วยอาการไข้และปวดเมื่อยตามตัว ต่อมาวันที่ 21 มีนาคม เข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แพทย์เก็บตัวอย่างและส่งตรวจหาเชื้อผลออกมายืนยันติดเชื้อโควิด-19 จากนั้นวันที่ 24 มีนาคม มีอาการไข้ 38.2 องศา คลื่นไส้ แพทย์จึงเก็บตัวอย่างส่งตรวจอีกครั้งผลออกมายืนยันติดเชื้อโควิด-19 ต่อมาวันที่ 30 มีนาคม มีอาการแย่ลง และมีภาวะปอดรั่วทำให้ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิตวันที่ 27 เมษายน ด้วยอาการระบบทางเดินหายใจล้มเหลวและภาวะไตวายเฉียบพลัน

นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า สำหรับผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมรายที่ 54 ผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 63 ปี อาชีพค้าขาย เป็นเจ้าของร้านอาหาร ทำหน้าที่รับเงิน มีภาวะอ้วน มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อซึ่งเป็นคนในครอบครัว ซึ่งมีทั้งสามีและหลานสาว เริ่มป่วยวันที่ 24 มีนาคม ด้วยอาการไข้ มึนศีรษะ เข้ารับการรักษาที่คลินิกแห่งหนึ่ง ต่อมาอาการไม่ดีขึ้นจึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลใน จ.ภูเก็ต วันที่ 1 เมษายน ด้วยอาการไข้ หายใจเหนื่อยหอบ อ่อนเพลีย แพทย์เก็บตัวอย่างส่งตรวจผลออกมายืนยันติดเชื้อโควิด-19 ต่อมามีอาการแย่ลงจึงใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิตในวันที่ 27 เมษายน ด้วยภาวะปอดอักเสบติดเชื้อร่วมกับระบบหายใจล้มเหลว ทั้งนี้ จะเห็นว่าผู้เสียชีวิตมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ทั้งคู่ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับ social distancing รักษาระยะห่างแม้กระทั่งกับคนในครอบครัว ต้องพยายามทำให้เป็นชีวิตวิถีใหม่ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

“ต้องดีใจกับคนทั้งประเทศที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อต่ำกว่า 10 เป็นวันที่สองแล้ว ทำให้กราฟผู้ติดเชื้อคงที่ ซึ่งมีไม่กี่ประเทศที่จะได้เห็นภาพตัวเลขผู้ติดเชื้อจำนวนน้อย แต่ก็เกิดขึ้นกับประเทศไทยของพวกเราให้ภาคภูมิใจ เป็นกำลังใจให้กับคนที่ต้องรักษาระยะห่าง รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี การ์ดอย่าตก วันนี้ที่เราทำได้มีผู้ติดเชื้อ 7 ราย เกิดขึ้นจากเมื่อ 7-14 วันที่ผ่านมา ที่เราร่วมมือกันอย่างดี วันนี้เราทำอะไรก็จะไปปรากฏผลในอีก 7-14 วันข้างหน้า เพราะฉะนั้นขอแรงทุกคนให้สม่ำเสมอแบบนี้ เข้มงวดแบบนี้ไปตลอด เพื่อจะได้ปลอดภัยกันทุกคน”

นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 7 ราย พบว่า สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 5 ราย ไปสถานที่ชุมชนแออัด เช่น งานแฟร์ คอนเสิร์ต ตลาดนัด 1 ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 1 ราย ซึ่งเป็นชาวจีน สำหรับจังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยมาก่อนมีจำนวน 9 จังหวัดคือ ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พิจิตร ระนอง สิงห์บุรี และอ่างทอง จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยช่วง 28 วันที่ผ่านมา จำนวน 13 จังหวัดคือ จันทบุรี ราชบุรี ลพบุรี เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด ส่วนจังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยช่วง 8-14 วันที่ผ่านมามี 5 จังหวัดคือ นนทบุรี ขอนแก่น กระบี่ นราธิวาส ปัตตานี และจังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยช่วง 7 วันที่ผ่านมามี 12 จังหวัดคือ กรุงเทพฯ ชลบุรี นครปฐม ปทุมธานี อยุธยา สมุทรปราการ สุพรรณบุรี นครราชสีมา ชุมพร ภูเก็ต ยะลา และสงขลา

นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่ออีกว่า ทางกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นำชุดการวิเคราะห์ ช่วงระหว่างเดือนมกราคม-26 เมษายน ผู้ป่วยจำนวน 328 ราย ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป คิดเป็น 11% ของผู้ป่วยทั้งหมด พบผู้ป่วยเสียชีวิต 21 ราย เพศชายมากกว่าเพศหญิง อายุ 60-69 ปี เมื่อนำผู้ป่วย 328 รายมาไล่ดูประวัติเสี่ยง พบว่า การร่วมพิธีทางศาสนา 79 ราย เกี่ยวข้องกับมวยและผู้สัมผัส 78 ราย สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน 58 ราย ชาวต่างชาติเดินทางมาจากต่างประเทศ 31 ราย อาชีพเสี่ยงไปสถานที่ชุมนุม แออัด 23 ราย ชาวไทยเดินทางมาจากต่างประเทศ 22 ราย และอื่นๆ 35 ราย และจังหวัดที่มีอัตราการป่วยของผู้สูงอายุ พบว่า ยะลา ภูเก็ต และปัตตานี โดยมี 2 จังหวัดเชื่อมโยงกับผู้ประกอบพิธีทางศาสนาต่างประเทศ ดังนั้น จึงต้องขอให้ดูแลปู่ย่าตายายเป็นอย่างดี เนื่องจากมีการเสียชีวิตค่อนข้างมาก

นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า เมื่อแยกจำนวนผู้ป่วยยืนยันตามปัจจัยเสี่ยงรายสัปดาห์ พบว่า กลุ่มก้อนต่างๆ จะคล้ายๆ เดิม คือการสัมผัสกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ ส่วนที่เพิ่มขึ้นคือการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก (Active Case Finding) ทั้งนี้ ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มใหญ่ที่สุดยังคงเป็นกลุ่มสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยัน โดยป่วยเพิ่มถึง 151 ราย ดังนั้น ผู้ใดเป็นญาติกับผู้ป่วยยืนยันจำเป็นต้องดูแลร่างกายและป้องกันและดูแลตัวเอง 100% ใส่หน้ากาก ล้างมือ กินร้อน ช้อนส่วนตัว รวมทั้งกลุ่มศูนย์กักคนเข้าเมือง การตรวจเชิงรุก เป็นต้น

นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของโลก พบว่า ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อรวม 3,065,374 ราย มีผู้เสียชีวิต 211,606 ราย อาการหนัก 56,300 ราย หายป่วย 921,795 ราย ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง 1,010,356 ราย เสียชีวิต 56,797 ราย สเปน มีผู้ติดเชื้อ 229,422 ราย เสียชีวิต 23,521 ราย อิตาลี มีผู้ติดเชื้อ 199,414 ราย เสียชีวิต 26,977 ราย ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อใหม่ 23,196 ราย ส่วนรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 6,198 ราย เพิ่มขึ้นเป็นหลักหมื่นและหลักพันรายเลยทีเดียว ส่วนเอเชีย สิงคโปร์ มีผู้ติดเชื้อ 14,423 ราย ญี่ปุ่น มีผู้ติดเชื้อ 14,325 ราย จากเดิมที่เราเคยชื่นชมว่าเขาควบคุมได้ดี แต่ปัจจุบันมียอดเพิ่มขึ้นทุกวัน

นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศ ประเทศสิงคโปร์มีการเร่งผลิตเตียงผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งจัดหาสถานที่ เช่น ศูนย์แสดงสินค้าชางงี และสถานที่อื่นๆ เพื่อรองรับจำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสูงเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน และเป็นอันดับ 6 ของเอเชีย นอกจากนี้สิงคโปร์ยังพบว่ามีการโกหกข้อมูลการเดินทางเข้าประเทศ ทำให้มีการเนรเทศชายชาวสหราชอาณาจักร อายุ 60 ปี และไม่อนุญาตให้เดินทางเข้าสิงคโปร์อีก หวังว่าไม่อยากให้เกิดภาพนี้ที่ประเทศไทย

Let's block ads! (Why?)

"หลัก" - Google News
April 28, 2020 at 02:11PM
https://ift.tt/3bLBhci

ศบค.ดีใจ ติดเชื้อเหลือหลักเดียวติดสองวัน ย้ำ ปชช.รักษาระยะห่าง การ์ดอย่าตก - มติชน
"หลัก" - Google News
https://ift.tt/3cQVaPs
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update

Bagikan Berita Ini