Search

'ไมโครลิสซิ่ง' ปักธงขายหุ้น IPO ก.ย.นี้ ชูจุดแข็งกำไรโต 30% - ประชาชาติธุรกิจ

koi.prelol.com
‘ไมโครลิสซิ่ง’ ปักธงขายหุ้น IPO ก.ย.นี้ ชูจุดแข็งกำไรโต 30%

ไมโครลิสซิ่ง‘ไมโครลิสซิ่ง’ หุ้น IPO น้องใหม่ เปิดแผนระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปลายเดือน ก.ย.นี้ นักวิเคราะห์ประเมินราคาหุ้น 3.40 บาท เตรียมจัดโครงสร้างการเงินขยายสาขาหนุนการเติบโต ตั้งเป้าปี’65 พอร์ตสินเชื่อทะลุ 5,000 ล้านบาท ชี้ภาวะเศรษฐกิจแย่ไม่กระทบ กำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่อง 30% ต่อปี

นายวินิตย์ ปิยะเมธาง กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไมโครลิสซิ่ง (MICRO) ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง และสินเชื่อประเภทอื่นที่มีรถบรรทุกมือสองเป็นหลักประกัน เปิดเผยในการเดินสายให้ข้อมูลนักลงทุน ว่า บริษัทฯ เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) จำนวน 235 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1.00 บาท/หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 25.31% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ โดยคาดว่าจะสามารถนำหุ้นของบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในช่วงปลายเดือน ก.ย. 63

ทั้งนี้ โดยมี บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน

ขณะที่วัตถุประสงค์ของการระดมทุน นายวินิตย์ กล่าวว่า เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการขยายธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อ ชำระคืนหนี้ เงินกู้ยืมสถาบันการเงิน ลงทุนขยายอาคารสำนักงาน และลงทุนในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยในปี 2564 ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มอีก 4 สาขา และปี 2565 อีก 4 สาขา รวม 20 สาขาในปี 2565 เงินลงทุนประมาณ 4 ล้านบาท/สาขา

“การขยายสาขาก็สอดคล้องกับเป้าการเติบโตของเรา ที่ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ต่อปี โดยคาดว่านปี 2564 จะมีพอร์ตสินเชื่อเติบโตแตะ 4,000 ล้านบาท และเติบโต 5,000 ล้านบาทในปี 2565 ส่วนการรับมือความเสี่ยง บริษัทฯ มีนโยบายคุมหนี้ทีไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไว้ไม่เกิน 3%” นายวินิตย์กล่าว

เมื่อสอบถามถึงภาวะเศรษฐกิจ นายวินิตย์ กล่าวว่า ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีนัก พบว่าผู้ประกอบการหันมาใช้บริการรถบรรทุกมือสองที่มีต้นทุนต่ำกว่ารถบรรทุกมือหนึ่ง ขณะที่ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ บริษัทมีการเข้าร่วมกับบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (NCB) รวมถึงจัดทำคะแนนเครดิต (Credit Scoring) ส่งผลให้ NPL ณ ไตรมาส 2/63 อยู่ที่ 2.7% จาก ณ สิ้นปี 2562 ที่ 4.5%

ในส่วนของโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ พบว่า 3 อันดับแรก ณ วันที่ 31 ธ.ค.62 ก่อนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ได้แก่ กลุ่มครอบครัวนายธรรมศักดิ์ อัชญาวัฒน์ ถือหุ้นสูงสุด 74.6% กลุ่มครอบครัวจิโรธนภาส ถือหุ้น 6% และกลุ่มครอบครัวคุนานนท์ ถือหุ้น 5% อย่างไรก็ดี ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO สัดส่วนการถือหุ้นของทั้ง 3 กลุ่ม จะลดลงเหลือ 55.8% 4.5% และ 3.8% ตามลำดับ

ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดธุรกิจของบริษัทฯ MICRO เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสองของประเทศ โดยดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 25 ปี ประกอบกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง เช่น รถบรรทุก 6 ล้อ 10 ล้อ 12 ล้อ และรถพ่วงมือสอง สำหรับใช้ในการประกอบธุรกิจ

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้บริการสินเชื่อรถเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ประเภทอื่น เช่น รถหัวลาก และรถบรรทุกเฉพาะกิจต่างๆ เพื่อให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้น โดยมุ่งเน้นให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสองเฉพาะรุ่นและยี่ห้อที่มีตลาดซื้อขายรองรับ ได้แก่ อีซูซุ (ISUZU) ฮีโน่ (HINO) และ ฟูโซ่ (FUSO) เป็นต้น มีระยะเวลาสัญญาเช่าซื้อระหว่าง 12-60 เดือน (1-5 ปี) มีอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อ (Flat Rate) ระหว่าง 8-15% ต่อปี

ทั้งนี้ ธุรกิจสินชื่อเช่าชื้อรถบรรทุกมือสองถือเป็นธุรกิจหลักของบริษัท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 95% ของยอดสินเชื่อทั้งหมดในแต่ละปี โดยรถบรรทุกเช่าซื้อส่วนใหญ่เป็นรถที่ใช้ในการดำเนินงานเชิงพาณิชย์ จึงสามารถสร้างรายได้เพื่อนำเงินมาชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยตามสัญญาได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บริษัทยังให้บริการทางการงินหรือสินเชื่อในรูปแบบอื่นๆ เพื่อตอบสนองความต้องการทางการเงินของลูกค้า ได้แก่ สินเชื่อเพิ่มสภาพคล่อง ซึ่งเป็นสินเชื่อที่มีทะเบียนรถบรรทุกแบบโอนเล่มเป็นหลักประกัน เพื่อต่อยอดการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่อรีไฟแนนซ์ (Refinance) สำหรับลูกค้าปัจจุบันที่มีประวัติการผ่อนชำระดี และมีความต้องการสภาพคล่องทางการเงินเพิ่มเติม รวมถึงการให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเช่าชื้อซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท เช่น การประสานงานเพื่อต่ออายุประกันภัยและ พรบ. (การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ) เป็นตัน

นายวินิตย์ กล่าวอีกว่า บริษัทมีช่องทางจัดหาลูกค้าผ่านเครือข่ายผู้ประกอบการเต็นท์รถบรรทุกมือสองเป็นหลักซึ่งมีเครือข่ายรวมกว่า 350 ราย และเครือข่ายนายหน้าจัดหาลูกค้าอีกกว่า 90 ราย นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถติดต่อขอรับบริการสินเชื่อได้ที่สำนักงานสาขาของบริษัท ซึ่งในปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 12 สาขา ในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ

ปัจจุบัน MICRO มีทุนจดทะเบียนจำนวน 935 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 935 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1.00 บาท/หุ้น มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 700 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 700 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยภายหลังการเสนอขายหุ้นสมัญให้แก่ประชาชน ทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทฯ จะเพิ่มขึ้นเป็น 935 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้และหลังหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามกฎหมายกำหนด

ด้าน นายเล็ก สิขรวิทย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเชีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า จุดแข็งของ MICRO คือเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสองรายใหญ่ของประเทศ สะท้อนจากพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อของบริษัทฯ มีการติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีเครือข่ายผู้ประกอบการเต็นท์รถบรรทุกมือสอง และนายหน้าจากทั่วประเทศรวมเคกือบ 450 ราย รวมถึงมีทีมบุคลากรที่มีความแข็งแกร่ง มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจ ท้ังด้านการตลาด การวิเคราะห์สินเชื่อ และการตรวจสอบสภาพการใช้งานรถบรรทุกมือสอง

‘ไมโครลิสซิ่ง’ ปักธงขายหุ้น IPO ก.ย.นี้ ชูจุดแข็งกำไรโต 30%
ภาพประกอบข่าว

นอกจากนี้ บริษัทฯ มีกระบวนการติดตามเร่งรัดหนี้ที่ดี ซึ่งเป็นปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญในธุรกิจสินเชื่อรถบรรทุกมือสอง และด้วยระบบการตรวจสอบสินเชื่อที่เป็นมาตรฐานเดียวกับผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรายใหญ่อื่นๆ มีระบบการติดตามหนี้ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยส่งเสริมให้สัดส่วนลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลดลงอย่างต่เนื่อง ควบคู่กับการระจายพอร์ตสินเชื่อที่หลากหลายรองรับการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ

อีกทั้ง ธุรกิจของ MICRO เป็นธุรกิจที่การแข่งขันไม่รุนแรง อุตสาหกรรมติบโตได้แม้ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อัตราดอกเบี้ยรับสูง มีการครอบคลุมความเสี่ยงและค่าใช้จ่าย มีรายได้และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีความสามารถในการทำกำไรที่ดี

ทั้งนี้ จากผลสำรวจราคาขาย IPO จากนักวิเคราะห์ในตลาด พบว่า ช่วงราคาเหมาะสมอยู่ระหว่าง 3.20-3.78 บาท/หุ้น หรือเฉลี่ยที่ 3.40 บาท/หุ้น หากได้ความชัดเจนของราคา IPO แล้ว จะแจ้งให้ผู้ลงทุนทราบอีกครั้ง

ขณะที่โครงสร้างรายได้ของบริษัทฯ รายได้หลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยรับตามสัญญาเช่าซื้อ 84% รายได้ ค่าธรรมเนียมและบริหารต่างๆ จากการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ 14% และรายได้อื่นๆ 2% โดยบริษัทมีรายได้รวมในปี 2560 – 2562 จำนวน 227.0 ล้านบาท 258.6 ล้านบาท และ 330.2 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตของรายได้ (Compound Annual Growth Rate: CAGR) ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเท่ากับ 24.4% ต่อปี

ทั้งนี้ รายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นรายได้ดอกเบี้ยรับจากสัญญาเช่าซื้อ ซึ่งเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อของบริษัท จากการที่บริษัทมุ่งนั้นดูแลรักษฐานลูกค้าเดิมรวมถึงการขยายฐานลูกค้าใหม่ผ่านการเพิ่มจำนวนสาขาและพนักงานสินเชื่อ ประกอบกับการขยายเครือข่ายผู้ประกอบการเต้นท์รถบรรทุกมือสอง ซึ่งเป็นช่องทางการจัดหาลูกค้าที่สำคัญของบริษัท โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 และ 2563 จำนวน 147.7 ล้านบาท และ 202.5 ล้านบาท ตามลำดับ

ในส่วนของกำไรสุทธิของบริษัทสำหรับปี 2560 – 2562 มีจำนวน 60.8 ล้านบาท 89.9 ล้านบาท และ 110.8 ล้านบาท ตามลำดับ อัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 26.8% 34.8% และ 33.5% ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ (CAGR) ที่สูงถึง 36% ต่อปี ซึ่งแสดงถึงความสมารถในการทำกำไรของบริษัท และในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 – 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 41.1 ล้านบาท และ 62.5 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 27.8% และ 30.8% ตามลำดับ โดยกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับรายได้ดอกเบี้ยเช่าซื้อที่เพิ่มขึ้น

ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 บริษัทฯ มีบัญชีลูกหนี้จำนวนทั้งสิ้น 3,701 สัญญา และมียอดลูกหนี้เช่าซื้อคงเหลือ (ก่อนหักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ) จำนวน 1,852.7 ล้านบาท ยอดจัดสินเชื่อตามภูมิภาคในพื้นที่ให้บริการหลักที่ภาคกลาง สัดส่วนกว่า 53% รองลงมาคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 21% และมีสัดส่วนหลักประกันเป็นรถ 10 ล้อ และ 12 ล้อ สัดส่วนสูงสุดของพอร์ตราว 45%

Let's block ads! (Why?)



"ภาคบังคับ" - Google News
September 03, 2020 at 03:31PM
https://ift.tt/2Ggt3Oz

'ไมโครลิสซิ่ง' ปักธงขายหุ้น IPO ก.ย.นี้ ชูจุดแข็งกำไรโต 30% - ประชาชาติธุรกิจ
"ภาคบังคับ" - Google News
https://ift.tt/2YaK1os
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://koi.prelol.com/

Bagikan Berita Ini

0 Response to "'ไมโครลิสซิ่ง' ปักธงขายหุ้น IPO ก.ย.นี้ ชูจุดแข็งกำไรโต 30% - ประชาชาติธุรกิจ"

Post a Comment

Powered by Blogger.