‘นวชีวิน’ วิ่งแฮมทาโร่ เปิดเวที ‘ทอล์กโชว์’ ถกสารพัดมุม การศึกษา-ปัญหา-สังคม
เมื่อเวลา 20.20 น. วันที่ 23 กรกฎาคม ที่บริเวณกระทรวงศึกษาธิการ ตัวแทนแนวร่วมนวชีวิน New Life Network นำโดย นายภูมิวัฒน์ แรงกสิวิทย์ แนวร่วมนวชีวินที่อดอาหารประท้วงรัฐบาล จัดกิจกรรม #ผ้าเบรกครม.โดยมีการทอล์กโชว์ของแนวร่วมนวชีวิน และเปิดเวทีให้กับประชาชน เพื่อเรียกร้องการแสดงความรับผิดชอบจากรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาปากท้องจากวิกฤตเศรษฐกิจ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากมาตรการของภาครัฐที่ล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาโควิด-19
ผู้สื่อข่าวรายงาน แกนนำ มีการติดป้ายผ้าระบุข้อความ “ทำไม่ได้ก็ไสหัวไป” “เราอดไปด้วยกัน #OURLIVESMATTER” ซึ่งจัดทำโดยกลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย (LLTD) และได้เตรียมป้ายไวนิลขนาดใหญ่ เป็นภาพชูกำปั้นและมีมวลชนเป็นฉากหลัง ระบุข้อความ “ทำไม่ได้ก็ลาออกไปซะ” มาติดตั้งชั่วคราวบริเวณศาลา และติดป้าย “ทำไมได้ ก็ลาออกไปซะ!! ” ตรงขอบรั้วของคลองผดุงกรุงเกษม หันหน้าออกไปทาง สหประชาชาติ (UN)
โดยเวลา 17.36 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 2 นาย จาก สน.ดุสิต ได้ขับรถมาจอดข้างรั้วกระทรวงศึกษาธิการ และเข้ามาพูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบกับกลุ่มนักศึกษาที่กำลังเตรียมกิจกรรม ก่อนจะขับรถออกไป จากนั้นมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ จำนวน 2 นานมาเฝ้าสังเกตการณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 19.10 น. มีชาย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์มาจอดหลบบริเวณต้นไม้ริมทางเท้าฝั่ง ร.ร.มัธยมวัดมกุฏกษัตริย์ เป็นเวลาเกือบ 10 นาที จากนั้นได้ถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือและขี่รถจักรยานยนต์ออกไป
เวลา 20.24 น. กลุ่มนวชีวินเริ่มกิจกรรม โดยวิ่งวนขณะเปิดเพลงแฮมทาโร่ ซึ่งเป็นเพลงประกอบการ์ตูน แฮมทาโร่ โดยมีการดัดแปลงเนื้อร้อง ดังนี้
“เอ้า ออก มาวิ่ง วิ่งนะวิ่งนะแฮมทาโร่ ตื่นออกจากรัง วิ่งนะวิ่งนะ แฮมทาโร่ ของอร่อยที่สุดก็คือ ภาษีประชาชน”
นายภูมิวัฒน์กล่าวว หลังอดข้าวประท้วงเป็นวันที่ 4 ได้ปรับพื้นที่และจะเปลี่ยนเป็นลานกิจกรรมอดข้าว เราไม่ได้จัดเป็นพื้นที่ปราศรัยเพียงอย่างเดียว แต่อยากให้มีกิจกรรมที่หลากหลาย ตลอดสัปดาห์ ทุกวัน ใครมีไอเดียอยากจัดกิจกรรมกรรมอะไรมาร่วมกันได้ เราเปิดเป็นพื้นที่สาธารณะ จะมาพูดประเด็นอื่นๆ ที่อยากพูด เช่น เรื่องเพศ การศึกษา เพราะอยู่ใกล้กระทรวงศึกษาธิการ อยู่บนที่สาธารณะ เป็นพื้นที่ส่วนรวม หรือใครจะมาร่วมเขียนระบายปัญหาต่างๆ บนป้ายนี้ก็ยินดี
นายภูมิวัฒน์กล่าวต่อว่า วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคมนี้ กลุ่มนวชีวิน จะมีกิจกรรมร่วมกับนักศึกษา และกลุ่มกิจกรรมที่ไม่เป็นทางการ นำโดย นพ.สุริยเดล ทรีปาตี เป็นวงเสวนา ‘ความเหลื่อมล้ำทางโอกาสในการศึกษา’ ที่ร้าน House of Common เจริญกรุง โดยช่วงบ่ายจะมีเวิร์กช้อปที่จะทำให้เห็นรูปร่างหน้าตาของปัญหาเกี่ยวกับการศึกษาชัดเจนขึ้น
“ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา มีสองคำที่มีความใกล้เคียงกัน คือ ความแตกต่าง กับความเหลื่อมล้ำ ส่วนตัวทำงานในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษามาตลอด ได้ร่วมงานอย่างจริงจังกับกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท เมื่อไม่ได้กินข้าว หัวสมองว่างมาก แต่ในประเด็นนี้เห็นว่า สรุปแล้ว เราไม่สามารถก้าวข้ามไปสู่สิ่งที่ดีกว่า คนบ้านไม่รวย เป็นหมอ มีอาชีพวิศวกรได้ แม้ไม่ได้มีโอกาส อาจมีหนี้สิน อาจไม่ได้มีต้นทุนทางชีวิต แต่สู้ได้โดยการเรียนรู้ในระบบ และสอบเข้า แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะผลักดันตัวเองได้ ถ้าได้อยู่จุดนั้น เขยิบสถานะทางชนชั้น จากคนที่ไม่มีต้นทุนก็ลำบากกว่าคนมีเงิน คนยากจนทุกคน คนรวยทุกคนไม่สามารถเป็นหมอได้ แต่ถ้าสตาร์ตจากบ้านรวยอาจไม่ต้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย เอาวุฒิไปสมัครงานได้ทันที แต่คนไม่มีต้นทุนเรียนจบอาจต้องไปทำงานใช้ทุนก่อน ถามว่าสามารถเขยิบคุณภาพชีวิตให้สูงเท่าคนที่มีต้นทุนแต่แรกได้หรือไม่ นี่คือความแตกต่างกับความเหลื่อมล้ำ นี่ต่างหากคือเส้นแบ่งที่เหลื่อมล้ำมากขึ้น เพราะท้ายที่สุด ไม่สามารถมีต้นทุนเท่ากับคนที่มีต้นทุนมาก่อนได้อย่างแท้จริง” นายภูมิวัฒน์ระบุ
นายภูมิวัฒน์กล่าวว่า ด้วยวิถีชีวิตที่มีเงื่อนไขทั้งเทคโนโลยี และแพลตฟอร์มเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งน่าจะช่วยยกระดับชีวิตและช่วยให้เข้าถึงการศึกษาได้มากขึ้น ได้ง่ายกว่าบัญชีธนาคาร จึงน่าจะมีการสร้างแพลตฟอร์มบางอย่างเพื่อกระจายการศึกษาให้ได้มากกว่าปัจจุบัน เพราะการศึกษาในระบบไม่ได้เท่าเทียมทั้งหมด ต่างจังหวัด ใน กทม. ร.ร.เตรียมฯ หรือ ร.ร.วัด ในกรุงเทพฯ เอง ก็แตกต่างอย่างมาก ทั้ง จำนวนครู นักเรียน งบประมาณ ฯลฯ ในรายละเอียดเล็กๆ น้อยที่ดูไม่น่าส่งผล สามารถส่งผบกระทบกับผู้เรียน ทำให้ขาดโอกาสบางอย่าง หรือไม่สามารถเลืิอกโอกาสได้ด้วยตัวเอง การมีเครื่องมือทางเทคโนโลยี หรืออย่างน้อยไม่จำกัดแต่การศึกษาภาคบังคับ มองการศึกษานอกระบบมากขึ้น เช่น สายอาชีพ เพราะโลกหมุนเวียนมากขึ้น ทุกวันนี้คนจบ ป.ตรี หางานไม่ได้ หรือหาได้ ก็ได้ไปทำงานทำระดับเดียวกันคนที่ไม่ได้จบ ปริญญาตรี คนจบ ปวช. ปวส.ไปทำงานในตำแหน่งปริญญาตรีเยอะมาก เพราะสิ่งสำคัญในการประกอบอาชีพอยู่ที่ทักษะมากกว่า เรียนจบ ป.ตรี และได้ปริญญาก็เท่านั้นเพราะการทำงานสมัยนี้ต้องเชื่อมโยงหลากหลายสาขา และพึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น ศาสตร์สาขาเดียวอาจไม่ตอบสนองกับความต้องการของแรงงานในปัจจุบันก็ได้ ด้วยเงื่อนไขเทคโนโลยี และคนไม่ได้มีต้นทุน บางครั้งการเข้ามาสนับสนุนของรัฐอาจจำเป็น หลายคนอาจนึกถึงการแจกแท็บเล็ต ซึ่งก็อาจจะไม่ใช่เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพพร้อมรองรับ แพลตฟอร์มการศึกษาในระบบ รัฐมีหน้าที่รองรับและช่วยเหลือให้คนเข้าถึง ไม่เฉพาะเทคโนโลยี แต่รวมถึงโอกาส ให้คนเข้าถึงโอกาสท้องเดือนแรกต้องผ่านระบบการศึกษา ทำไมไม่ลองปรับมุมมอง อาจเปิดโอกาสได้หลากหลาย เด็กค้นหาตัวเองได้ไวขึ้น ปัญหาตอนนี้อาจเพราะระบบการศึกษาเราไม่แข็งแรงพอหรือไม่
“ในอนาคต พื้นที่นี้จะมีการทำแคมเปญ นอนเป็นเพื่อนจอห์น อย่างไรก็ดี จะเปิดให้เป็นเวทีสาธารณะ ไม่จำเป็นต้องการเมือง หรือปราศรัยด่ารัฐบาล สามารถมาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองความคิดปัญหาที่ได้เผชิญหน้า มาร่วมแสดงละคร เต้นแอโรบิก เปิดปาร์ตี้หมูกระทะ เพื่อยั่วให้ผมที่กำลังอดอาหารอยู่ ก็ยินดี โดยวันพรุ่งนี้ จะมีการเผากงเต๊กของ พล.อ.ประยุทธ์ และ ครม. หน้าทำเนียบรัฐบาล เวลา 11.20 น.” นายภูมิวัฒน์กล่าว
ทั้งนี้หลังเสร็จสิ้นกิจกรรม ได้มีผู้นำพัดลมมามอบให้กับ นายภูมิวัฒน์อีกด้วย
"ภาคบังคับ" - Google News
July 23, 2020 at 10:13PM
https://ift.tt/30IpSFQ
'นวชีวิน' อดข้าววันที่ 4 ยังมีแรง เปิดเวทีรอบดึก ถกการศึกษาไทยหน้ากระทรวงศึกษาธิการ ชี้สุดเหลื่อมล้ำ - มติชน
"ภาคบังคับ" - Google News
https://ift.tt/2YaK1os
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://koi.prelol.com/
Bagikan Berita Ini
0 Response to "'นวชีวิน' อดข้าววันที่ 4 ยังมีแรง เปิดเวทีรอบดึก ถกการศึกษาไทยหน้ากระทรวงศึกษาธิการ ชี้สุดเหลื่อมล้ำ - มติชน"
Post a Comment