นั่นไม่สำคัญเท่ากับการต้องรีบกระตุกความเชื่อมั่นของประชาชนก่อนไหลเตลิด แบบที่นายกรัฐมนตรีต้องนั่งเฮลิคอปเตอร์บินด่วนลงพื้นที่จังหวัดระยอง ที่ต้องเจอกับสถานการณ์อกสั่นขวัญแขวน กระเทือนภาคธุรกิจ ผู้คนผวาไม่กล้าเสี่ยงเข้าพื้นที่โซนอันตราย
นักท่องเที่ยวยกเลิกการจองโรงแรมเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์
จากที่เริ่มฟื้นกลับมาตั้งไข่ รีสอร์ต ร้านอาหารเตรียมรองรับนักท่องเที่ยวช่วงลองวีกเอนด์ เทศกาลหยุดยาวสิ้นเดือนกรกฎาคม เจอกระแสโควิดเด้งกลับ ผู้ประกอบการธุรกิจต้องเจ๊งซ้ำหนักไปกันใหญ่
มันคือความผิดชอบของรัฐบาลโดย ศบค.เต็มๆ
ยังไม่ต้องพูดถึงตัวเลขความเสียหายทางเศรษฐกิจ แต่ที่มลายหายไปแบบวูบวาบเลยก็คือกระแสความเชื่อมั่นในมาตรฐานของประเทศไทย เสียงชื่นชมผลงาน ศบค.สามารถรับมือโควิด-19 ได้ดีเบอร์ต้นๆของโลก
พลิกกลับเป็นเสียงโหวกเหวกโวยวาย ศบค.การ์ดตก ทำคนในประเทศเสี่ยงตาย ต่างชาติจ่อลดเครดิตความปลอดภัยจากโควิด-19 ของคนที่เดินทางจากเมืองไทย
อารมณ์ตลกร้ายแบบที่ “บิ๊กตู่” เปรย “อยู่ดีๆโดนเครื่องบินอียิปต์ชน”
ต้นทุนหน้าตักผู้นำลดลงมาอยู่ในจุดเท่าทุน เริ่มไหลเข้าเนื้อขาดทุน
ตามสภาพการณ์แบบที่มีเสียงโห่ไล่ ถือป้ายด่า เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกจากนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการปล่อยให้ไทยกลับสู่จุดเสี่ยงโควิด-19 ระบาดระลอก 2
ถึงจุดต้องผ่องกระแส “จวนตัว” เบี่ยงไฟร้อนลามไหม้
ตามจังหวะสถานการณ์ “ทิ้งไพ่” ใบสุดท้าย ขยับการเมืองช็อตสำคัญกับการเปิดทางถอยของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จากรองนายกรัฐมนตรี มือหนึ่งเศรษฐกิจรัฐบาล พร้อมกับการลาออกของทีม “4 กุมาร” อันประกอบไปด้วยนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษาฯ และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกฯ
ยกขบวนยื่นใบลาออก “ถอนสมอ” จาก ครม.
ด้วยเหตุผลเพื่อลดแรงกดดันนายกฯ สลายบรรยากาศอึมครึม เปิดทางให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้พิจารณาปรับ ครม.ท่ามกลางภาวะมหาวิกฤติเศรษฐกิจโควิดที่จ่ออยู่โค้งเหวนรกข้างหน้า
“สมคิด-4 กุมาร” โชว์สปิริต ไขก๊อกเพื่อภาพรวมเชิงบริหาร
แต่ตามกระแสข่าววงใน นั่นก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังข้อความทางไลน์จาก “บิ๊กตู่” ถึง “สมคิด” เปรยเป็นทำนองรู้สึกลำบากใจ รู้สึกแย่ ไม่รู้จะพูดต่อหน้าอย่างไร มีความจำเป็นต้องปรับรัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจ ด้วยเหตุผลทางด้านการเมือง
เฉลยคำตอบสุดท้าย “บิ๊กตู่” เลือกใช้ระบบโควตา พึ่งเสียง ส.ส.หามไปต่อ
และก็เป็นอีกฝ่ายที่รับรู้ด้วยสัญชาตญาณ ตามไฟต์บังคับที่นายสมคิดมีปัญหาสุขภาพ ส่วนทีม 4 กุมารก็อ่านหมากขาด คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว แนวโน้มเทคโนแครตภาพดีแต่ไม่มีฐานเสียง ส.ส.ในมือ ภายใต้ภาวะการเมือง “new normal” เป็นแค่ภาพมโนผ่านลมปาก เรื่องยากที่จะหนี “old normal”
จึงจากกันด้วยดี “สมคิด-4 กุมาร” ถอยไปพักเครื่อง ซ่อมสุขภาพ
เก็บโปรไฟล์มือบริหาร เครดิตการเมืองน้ำดี รอรีเทิร์นเมื่อชาติต้องการ
โดยสถานการณ์โหลดภาระหนักอึ้งยิ่งกว่าขุนเขาพระสุเมรุคืนให้ พล.อ.ประยุทธ์แบกข้ามดอยอินทนนท์ ต้องรับมือโจทย์โหดหิน มหาวิกฤติโควิดผสมโรงกับเกมเน่าการเมืองชิงอำนาจผลประโยชน์แบบไทยๆ
ในฐานะ “แม่ทัพเดี่ยว” ไม่มี “ตัวช่วย” ประคองเกมบริหาร
อาการแบบที่ “บิ๊กตู่” ยอมรับสภาพเต็มปากเต็มคำ เสียดาย “สมคิด” กับรัฐมนตรี 4 กุมาร ที่ทำงานร่วมกันมากว่า5 ปี สร้างเนื้องานเป็นรูปเป็นร่างทั้งโครงการอีอีซี เศรษฐกิจดิจิทัล
แต่จำใจต้องปรับ ครม.ตามเงื่อนไขทางการเมือง
ตามท้องเรื่องมันก็ยิ่งน่าเหนื่อยใจแทนท่านผู้นำ ภายใต้การจัด ครม.ตามเงื่อนไขทางการเมืองซึ่งไม่ใช่ของใหม่แบบที่ “บิ๊กตู่” อ้างว่าไม่คุ้นเคย เพราะจริงๆ มันเริ่มมาตั้งแต่การจัดรัฐบาลเลือกตั้ง “ประยุทธ์ภาค 2” ที่เอากระทรวงเศรษฐกิจสำคัญ ทั้งคมนาคม พาณิชย์ เกษตรฯ ท่องเที่ยวฯ แจกให้พรรคร่วมรัฐบาล
แยกไปคุมเมืองขึ้น อาณาจักรใครอาณาจักรมัน
ตั้งแต่จุดนั้น นายสมคิดก็หลุดสถานะกัปตันทีมเศรษฐกิจโดยอัตโนมัติ “บิ๊กตู่” คือหัวหน้าทีมเศรษฐกิจตัวจริง ประกาศย้ำแล้วย้ำอีก แต่ประชาชนทั่วไป หรือแม้แต่แวดวงนักลงทุน นักธุรกิจก็ยังไม่จดจำ
สะท้อนระดับความมั่นใจ กัปตันทีมเศรษฐกิจไม่ใช่แค่คน “นั่งหัวโต๊ะ”
ซึ่งตามสภาพการณ์ปัญหา เพราะเงื่อนไขโควตาการเมืองมิใช่หรือที่ทำให้ภาพเชิงเศรษฐกิจของรัฐบาลผสมประยุทธ์ภาค 2 ต้องต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เมื่อเทียบกับรัฐบาลประยุทธ์ภาคแรก
แล้วถ้าต้องปรับ ครม. แจกโควตารัฐมนตรีกันตามเงื่อนไขการเมืองแบบที่ “บิ๊กตู่” สารภาพออก อากาศ หนีไม่พ้นภาคบังคับแจกโควตากลุ่มก๊วนตามอัตราส่วนที่นั่ง ส.ส.
การบริหารบ้านเมืองจะไปต่อกันยังไงในสภาพง่อยเปลี้ย
เอาแค่ไม่ทันไร “สมคิด-4 กุมาร” ไขก๊อกไม่ถึงชั่วโมง ก็มีควันโขมงพวยพุ่งออกมาจากค่ายพลังประชารัฐ อาการฮึดฮัดแบบที่ “เสี่ยแฮงค์” นายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรค ซัดคนพรรคเดียวกันเจาะยาง ปล่อยข่าวกลุ่มสามมิตรก่อหวอดต้านชื่อ “ไพรินทร์ ชูโชติถาวร” สายตรงตึกไทยมายึดเก้าอี้ รมว.พลังงาน
ฟาดหางตีตราจองไว้ให้ลูกพี่อย่างนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ว่ากันถึงขั้นจะตีรวนป่วนกันจบยุบสภา ถ้ากลุ่มสามมิตรโดนปาดหน้าหยิบชิ้นปลามัน
ตามอาการที่ “บิ๊กตู่” ก็สวนทันควันการันตีชื่อ “ไพรินทร์” มีปัญหาตรงไหน
แค่เก้าอี้ รมว.พลังงานก็ฟัดกันกะละมังข้าวกระจาย ไม่ต้องพูดถึงเก้าอี้อื่นที่ตีตราจองกันไว้ ยังไงก็ต้องมีคนผิดหวัง รู้สึกโดนหักหลัง จังหวะป่วนเกิดขึ้นได้ทุกขณะ
“บิ๊กตู่” ต้องเจอแรงกระแทกจากเสือหิวเสือโหยตลอดเวลา
ภายใต้สภาพการณ์ที่รัฐบาลต้องเผชิญมหา-วิกฤติเศรษฐกิจโควิด บรรยากาศแบบที่สื่อต่างประเทศสะท้อนนักลงทุนต่างชาติจับตาค่าเงินบาท เพราะไม่มั่นใจเศรษฐกิจของไทยหลังทีมของนายสมคิดลาออก สัญญาณจากญี่ปุ่นที่กังวลความต่อเนื่องของโครงการลงทุนอีอีซี และข้อตกลง CPTPP
อาการแบบที่ “บิ๊กตู่” จีบใครมาเสียบแทนทีม “สมคิด” ก็ส่ายหัวปฏิเสธ
ที่หนีไม่ออกจำใจรับเทียบเชิญก็กล้าๆกลัวๆ ต้องใส่ “พระรอด” ขากลับต้องเสี่ยงห้อย “พระร่วง”
ในอารมณ์แบบที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำใจดีสู้เสือ ประกาศ “ขอให้มั่นใจในตัวผม” เป็นหัวหน้าทีม พร้อมนำพาประเทศพ้นวิกฤตการณ์ด้วยการบริหารวิถีใหม่
แต่อีกทางขบวนการต่อต้านก็ไล่ตามประกบ ถือป้ายไล่ด่ากันแบบจะจะไม่กลัวโดนฝ่ายความมั่นคงรวบ ล่าสุดม็อบนักศึกษาในนาม “เยาวชนปลดแอก” นัดรวมพลใครไม่ทนให้ไปกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย วันที่ 18 กรกฎาคม เร้าไฟกระตุกอารมณ์คนไม่ทนรัฐบาล 3 ป.
แห่กระแส ปั่นสถานการณ์ไม่เชื่อมั่นผู้นำ ไล่ให้ลาออกไป
ตามเงื่อนไขสถานการณ์ เศรษฐกิจเร้า การเมืองรุม ม็อบระดมพลกดดัน
ภาวะขาลง เดิมพันสุดท้าย “บิ๊กตู่” ปรับ ครม.เดินหน้าเรือเหล็กสนิมเกรอะกรัง พลังเครื่องยนต์ใกล้หมด
ถ้าพลาดก็ไม่มีสิทธิ์แก้ตัวอีกแล้ว.
“ทีมการเมือง”
"ภาคบังคับ" - Google News
July 19, 2020 at 05:06AM
https://ift.tt/3fHbowh
“สมคิด-4กุมาร” ถอยฉากเปิดทาง “บิ๊กตู่” ปรับ ครม. : วัดศักยภาพ แม่ทัพเดี่ยว - ไทยรัฐ
"ภาคบังคับ" - Google News
https://ift.tt/2YaK1os
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://koi.prelol.com/
Bagikan Berita Ini
0 Response to "“สมคิด-4กุมาร” ถอยฉากเปิดทาง “บิ๊กตู่” ปรับ ครม. : วัดศักยภาพ แม่ทัพเดี่ยว - ไทยรัฐ"
Post a Comment