Search

ทั่วโลกติดโควิด10.2ล.USป่วยเพิ่ม4หมื่นบราซิลอินเดียอ่วม - สำนักข่าว ไอเอ็นเอ็น

koi.prelol.com

เว็บไชต์ Worldometers รายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ประจำวันที่ 29 มิถุนายน 2563 เวลาประมาณ 07.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ทั่วโลกพบมีผู้ป่วยติดเชื้อแล้ว 10,238,199 ราย เพิ่มขึ้น 163,084 ราย เสียชีวิต 504,078 ราย เพิ่มขึ้น 3,454 ราย รักษาหายแล้ว 5,549,729 ราย

โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากสุด 10 อันดับได้แก่

1.สหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อ 2,637,039 ราย เพิ่มขึ้น 40,502ราย เสียชีวิต 128,437ราย เพิ่มขึ้น 285 ราย รักษาหาย 1,093,227ราย
2.บราซิล มีผู้ติดเชื้อ 1,345,254 ราย เพิ่มขึ้น 29,313ราย เสียชีวิต 57,658 ราย เพิ่มขึ้น 555 ราย รักษาหาย 733,848ราย
3.รัสเซีย มีผู้ติดเชื้อ 634,437 ราย เพิ่มขึ้น 6,791ราย เสียชีวิต 9,073 ราย เพิ่มขึ้น 104 ราย รักษาหาย 399,087ราย
4.อินเดีย มีผู้ติดเชื้อ 549,197 ราย เพิ่มขึ้น 19,620ราย เสียชีวิต 16,487 ราย เพิ่มขึ้น 384 ราย รักษาหาย 321,774ราย
5.สหราชอาณาจักร มีผู้ติดเชื้อ 311,151 ราย เพิ่มขึ้น 901 ราย เสียชีวิต 43,550 ราย เพิ่มขึ้น 36 ราย
6.สเปน มีผู้ติดเชื้อ 295,850 ราย เพิ่มขึ้น 301 ราย เสียชีวิต 28,343 ราย เพิ่มขึ้น 2 ราย
7.เปรู มีผู้ติดเชื้อ 279,419ราย เพิ่มขึ้น 3,430 ราย เสียชีวิต 9,317 ราย เพิ่มขึ้น 182 ราย รักษาหาย 167,998ราย
8.ชิลี มีผู้ติดเชื้อ 271,982 ราย เพิ่มขึ้น 4,216 ราย เสียชีวิต 5,509 ราย เพิ่มขึ้น 162 ราย รักษาหาย 232,210 ราย
9.อิตาลี มีผู้ติดเชื้อ 240,310 ราย เพิ่มขึ้น 174 ราย เสียชีวิต 34,738 ราย เพิ่มขึ้น 22 ราย รักษาหาย 188,891ราย
10.อิหร่าน มีผู้ติดเชื้อ 222,669 ราย เพิ่มขึ้น 2,489 ราย เสียชีวิต 10,508 รายเพิ่มขึ้น 144 ราย รักษาหาย 183,310 ราย

ขณะที่ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 95 มีผู้ติดเชื้อสะสม 3,162 ราย เสียชีวิต 58 ราย รักษาหาย 3,053ราย

Let's block ads! (Why?)



"เพิ่มขึ้น" - Google News
June 29, 2020 at 08:16AM
https://ift.tt/3icUdV2

ทั่วโลกติดโควิด10.2ล.USป่วยเพิ่ม4หมื่นบราซิลอินเดียอ่วม - สำนักข่าว ไอเอ็นเอ็น
"เพิ่มขึ้น" - Google News
https://ift.tt/2Y8r7Pd
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://koi.prelol.com/

Bagikan Berita Ini

0 Response to "ทั่วโลกติดโควิด10.2ล.USป่วยเพิ่ม4หมื่นบราซิลอินเดียอ่วม - สำนักข่าว ไอเอ็นเอ็น"

Post a Comment

Powered by Blogger.